ข่าวสาร3 ( บทสัมภาษณ์ )

วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์ของผู้ประพันธ์เพลงประกอบหนัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ Nicholas Hoopers จาก LA Times มาให้อ่านกันค่ะ ซึ่งเขาก็ได้มาพูดถึงความแตกต่างของอารมณ์เพลงในภาคนี้ที่จะมืดลงค่ะ

Q : ในฐานะที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับ เดวิด เยตส์ มา 19 ปีแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรกับการที่ได้มารับงานหนังฟอร์มยักษ์อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ บ้าง?

NH: อันที่จริงผมก็เป็นแฟนหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ พอมีหนังภาคแรกออกมา ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไปนั่งดูในโรงหนังอย่างใจจดใจจ่อ และแน่นอนว่าผมก็มีความคิดว่า ถ้าเราได้มีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้สักครั้งก็น่าจะดีเหมือนกัน จนกระทั่ง เดวิด เยตส์ ได้มาบอกผมวันหนึ่งว่า เรากำลังจะได้ทำหนัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ นะ ผมก็ผงะไปเลยเพราะผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ปกติแล้ว เดวิด จะถนัดทำหนังแนวการเมืองโทนมืดๆ ดังนั้นกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่แตกต่างกว่าก่อนๆเยอะ


Q : คุณจะรับมืออย่างไรในการใส่จุดเด่นและความแตกต่างลงไปในตัวเพลง เพราะก่อนหน้าที่คุณจะมารับตำแหน่งนี้ก็มีหนังออกมาตั้ง 4 ภาคแล้ว

NH: ผมเริ่มต้นด้วยการฟังเพลงประกอบหนังของ John Williams(ภาค 1-3) มากๆ โดยเฉพาะกับภาค 3 "The Prisoner of Azkaban" ที่ผมจะชอบเป็นพิเศษและมันก็ใกล้เคียงกับแนวเพลงที่ผมจะแต่ง และผมก็เลือกใช้ธีมหลักๆของเขามาใช้นั่นก็คือ "Hedwig Theme" ส่วนที่เหลือนั้นเราก็ตกลงกันว่าจะทำเพลงใหม่หมด สำหรับใน Half-Blood Prince นั้นก็จะมีความแตกต่างออกไป เพลงจะมีลักษณะที่ฟังง่ายขึ้นครับ


Q : แสดงว่าเพลงในภาค 6 นี่จะแตกต่างจาก “Order of the Phoenix” ที่เป็นหนังแนวลุ้นระทึกและมีฉากแอ็คชั่นเยอะกว่าภาคนี้?

NH: ใช่ครับ ภาค 5 นั้นจะเป็นแนวแอ็คชั่นมากกว่า ที่ผ่านมานี้ผมก็เคยแต่งเพลงให้หนังแอ็คชั่นนะ แต่สำหรับเรื่องนี้ก็ยังนับว่ามันแปลกใหม่สำหรับผมอยู่ดี


Q : “Half-Blood Prince” เป็นภาคที่ถือว่ามีโทนที่มืดมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด คุณมีวิธีอย่างไรที่จะดึงเอาอารมณ์นี้มาใส่ในเพลง?

NH: เราเริ่มจากมาเน้นในส่วนตอนจบของหนังก่อนครับ ในฉากก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมในตอนท้ายเราจะมีเสียงของคอรัสประสานเสียง และกลองผสมผสานกัน เพลงในภาคนี้จะมีอารมณ์ที่เหมือนเป็นเส้นคู่ขนานกับความคิดของ ดัมเบิลดอร์ ตลอดทั้งเรื่อง ดังนั้นฉากในถ้ำ เพลงก็จะเป็นส่วนสำคัญมาก

นอกจากนี้ แล้ว หากคุณจำได้ในเพลงที่ชื่อว่า "Possession" ในภาค 5 ที่บรรเลงในฉากที่โวลเดอมอร์เข้าสิงแฮร์รี่ในตอนท้าย แต่แฮร์รี่ต่อต้านและขับไล่เขาออกไปจากจิตใจได้ด้วยความรักที่โวลเดอมอร์ไม่ มีวันเข้าใจ เราได้นำเอาแนวคิดนี้มาใช้ในภาคนี้อีกครั้งซึ่งจะปรากฎในช่วงท้ายของหนัง ครับ เพลงในหนังภาคนี้ก็จะสื่อไปถึงในเรื่องของ "ความสัมพันธ์" เป็นส่วนใญ่ครับ มันก็จะมีทั้งความสัมพันธ์ระหว่างแฮร์รี่ กับ ดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ กับ จินนี่ และก็ความรักของวัยรุ่น



Q : ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเรื่องที่คุณใส่คอรัส และ กลองไปในฉากตอนท้ายหน่อยสิ

NH: เดวิด ต้องการให้มีอารมณ์ของ "นักร้องประสานเสียงของโรงเรียน" คลอไปกับความชั่วร้ายที่เกิดในตอนท้ายของหนังครับ มันจะเริ่มบรรเลงหลังจากแฮร์รี่ และ ดัมเบิลดอร์กลับออกมาจากถ้ำ และก็ก่อนที่ผู้เสพความตายจะมาถึงฮอกวอตส์ และหลังจากจุดนั้น อารมณ์ของเพลงและหนังก็จะขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงจุดสูงสุดครับ



Q : เดรโก มัลฟอย จะมีบทเด่นในภาคนี้ แล้วเขาจะมีธีมหลักของเขาเองบ้างไหม?

NH: มีแน่นอนครับ เพลงจะบรรเลงไปพร้อมๆกับเวลาที่เขาย่องๆเข้าไปในห้องต้องประสงค์ เพลงจะมีอารมณ์ผสมระหว่างความเศร้าและความมืดหม่น จริงๆมันก็อาจจะไม่เศร้ามากแต่ก็เป็นความอ่อนไหวในเบื้องลึกน่ะครับ เพราะมัลฟอยก็เป็นเด็กที่น่าสงสารที่ถูกดึกให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับความชั่ว ร้ายนั่นเอง เพลงจะทำให้คนดูรู้สึกว่ามัลฟอยก็ไม่ได้ชั่วร้ายไปเสียทั้งหมดครับ


Q : มีเพลงไหนที่เป็นเพลงโปรดของคุณในหนังภาคนี้บ้าง?

NH: เพลงที่ผมชอบที่สุดในหนังภาคนี้ก็จะเป็นเพลงในฉาก "ถ้ำ" เพราะมันเป็นเพลงประกอบในฉากที่ยิ่งใหญ่มาก และก็แต่งยากมากเช่นกัน มีบางคนที่ได้ฟังเพลงนี้หลังจากที่เรามิซ์เสียงเสร็จเรียบร้อย พวกเขาเข้ามาบอกผมว่าเพลงนี้ทำให้เขาน้ำตาซึมเลยล่ะ และอีกเพลงที่ผมชอบรองลงมาก็เป็นฉากความรักระหว่าง แฮร์รี่ กับ จินนี่ ครับ

อื้มม..ขอบคุณ

สำหรับข่าวสาวคั้บ

ขอบคุณสำหรับบทสัมภาษณ์ดีๆค่ะ ! :D

นักข่าวหัวเห็ดจริงๆเลย
ขอบคุณมากจ๊ะ

ขอบคุณที่ชมจ่ะ

ข่าวสารดีๆ...


ขอบคุนมากๆน๊า...

ไม่เปนไรจร้า

ขอบคุณสำหรับข้อมุลดีๆค่ะ

หาข่าวเก่งจิงๆ

ติดตามแทบไม่ทัน

:D

ชอบเย็ดส์อ่ะ เก่ง >< !


ชอบฝีมือการกำกับเค้า
แดเนียลและนักแสดงคนอื่นๆก็ชอบเย็ดส์กันเยอะนะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

ขอบคุนสำหรับข่าวสารน้า

:D

ชอบ คนเก่ง

งื้ม ม ม ๆ..

ช่ายๆ

ผู้กำกับเก่งอ่ะ

นักแสดงก้อเก่ง งง *

ขอบคุนค่ะ

สำหรับข่าววว

นักข่าวพยายามจริงๆ =]