♥ แม่มดในแบบของ โรอัลด์ ดาห์ล ♥
เรื่องราวของแม่มดในวรรณกรรมก้องโลกเรื่อง The Witches by Roald Dahl นั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ทั้งสองเรื่องนับเป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กที่มีชื่อเสียง เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดีเช่นเดียวกัน
แม่มดพ่อมดในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นอย่างที่เด็กๆหลายคนใฝ่ฝัน คือ มีเวทมนตร์ มีไม้กายสิทธิ์เสกคาถาต่างๆได้ มีไม้กวาดบินได้ และมีสังคมอีกแบบที่แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดา(มักเกิ้ล) เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์และการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น แต่ในเรื่องแม่มดของโรอัลด์ ดาห์ลนั้นกลับตรงกันข้าม
ในเรื่องนี้ แม่มดจะมีแต่ความน่ากลัว น่าขยะแขยง แม่มดในเรื่องนี้จะไม่ใช่มนุษย์ และไม่ใช่ผู้หญิง เพียงแต่มีรูปร่างหน้าตาท่าทางการพูดการจาเหมือนผู้หญิง จริงๆแล้วแม่มดเป็นสัตว์คนละประเภทเลยทีเดียว คือเป็นผีร้ายแปลงร่างเป็นคน แม่มดเกลียดเด็กอย่างที่สุด กลิ่นตัวของเด็กนั้นแม่มดคิดว่าเป็นกลิ่นที่เหม็นเหมือนกลิ่นขี้หมา หน้าที่ของแม่มดคือ กำจัดเด็กให้หมดไปจากโลกด้วยวิธีการต่างๆ มีสารพัดวิธีที่แม่มดจะนำมาใช้เพราะในหัวสมองของแม่มดจะคิดแต่เรื่องเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา แต่ต้องไม่ใช่การฆ่าหรือทำร้ายแบบปกติอย่างเช่นการยิง การแทงด้วยมีด การวางยาพิษ เพราะทำแบบนี้อาจถูกตำรวจจับ แต่แม่มดจะใช้เวทมนตร์อันชั่วร้ายของตนเองดลบันดาล
แม่มดมีอยู่ในทุกประเทศทั่วโลก ในแต่ละประเทศก็มีจำนวนแม่มดมากน้อยต่างกันไป และวิธีการกำจัดเด็กของแม่มดแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน
แม่มดที่ประเทศนอร์เวย์มีเยอะที่สุด จนกลายเป็นเรื่องปกติที่คนนอร์เวย์เคยชินเมื่อมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
- เด็กหญิงแรงกิลด์ แฮนเซ่นอายุ 8 ขวบหายสาบสูญไปโดยน้องสาวของเธอบอกว่ามีผู้หญิงร่างสูงสวมถุงมือสีขาวมาพาตัวไป
- เด็กหญิงซอลเว็ก คริสเตียนเส็นเดินกินแอปเปิ้ลกลับมาจากโรงเรียนโดยบอกแม่ว่าเธอได้ แอปเปิ้ลนี้มาจากผู้หญิงใจดีคนหนึ่งที่พบระหว่างทาง วันรุ่งขึ้นเธอหายตัวไปและไปปรากฏอยู่ในรูปภาพ สีน้ำมัน และสามารถเปลี่ยนสถานที่และท่าทางได้ด้วยแต่ไม่มีใครเคยเห็นเธอเคลื่อนไหว คือ ไปปรากฏตามส่วนต่างๆของรูปภาพโดยอยู่ในท่านิ่งเฉยตลอด และในเวลาต่อมาเธอก็อายุมากขึ้นๆ และในปีที่ 54 นับแต่เธอเข้าไปอยู่ในรูปภาพ เธอก็หายไปจากรูป สันนิษฐานว่าเธอคงจะแก่ตายไปแล้ว
- เด็กหญิงเบอร์จิต สเว็นสันอยู่ดีๆก็มีขนงอกออกมาเต็มตัว พอหนึ่งเดือนผ่านไปเธอก็กลายเป็นไก่ที่ออกไข่ฟองโตได้ด้วย พ่อแม่ของเธอเลี้ยงเธอไว้ในคอกที่สร้างขึ้นในสวน
- เช้าวันหนึ่ง เนื้อตัวของเด็กชายฮาราล กลายเป็นสีเทาอมเหลืองไปหมด ผิวหนังแห้งแข็งเป็นรอยแตกระแหงเหมือนกับเปลือกถั่ว พอตกเย็นเขาก็กลายเป็นหินไปเลย
- เด็กผู้ชายอายุ 9 ขวบชื่อลีฟ ไปพักผ่อนที่ฟยอร์ดในอ่าว ขณะที่คนอื่นๆไปว่ายน้ำและกินอาหารปิกนิค ลีฟก็ดำลงไปใต้น้ำ โผล่มาอีกทีเขาก็กลายร่างเป็นปลาโลมาที่พูดได้ให้พี่ๆน้องๆขี่หลังเล่นตลอดบ่าย แล้วก็โบกครีบลาจากไปไม่เคยเจออีกเลย
แม่มดในอเมริกาดลใจผู้ใหญ่ให้กินลูกของตัวเองได้ โดยการสาบให้เด็กกลายเป็นขนมปังไส้กรอกเสียก่อนที่ประเทศอังกฤษมีแม่มดน้อยกว่าที่ประเทศนอร์เวย์ แต่โหดร้ายกว่ามากนัก แม่มดอังกฤษจะชอบสาปให้เด็กๆกลายเป็นสัตว์ที่ผู้ใหญ่ขยะแขยง เช่น ตัวทาก และให้ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายกำจัดเด็กเสียเองโดยการเหยียบโดยไม่รู้ว่านั่นคือเด็ก บ้างก็สาปให้เป็นตัวหมัดแล้วรอให้แม่ของเด็กซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่เอาผงโรยฆ่าหมัดมาฆ่าลูกของตัวเอง บ้างก็สาปให้เด็กเป็นไก่ฟ้าแล้วไล่เข้าป่าไปในช่วงที่มีการล่าไก่ฟ้าประจำปี เด็กในร่างของไก่ฟ้าก็จะถูกยิงตายแล้วโดนนำไปทำอาหารโดยฝีมือของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ที่เลวร้ายคือ มีการวางแผนที่จะใส่ยาที่ทำให้กลายเป็นหนูอย่างช้าลงในขนมหวานแล้วแจกฟรีให้เด็กๆจำนวนมาก เมื่อเด็กๆกินเข้าไปก็จะไปกลายเป็นหนูในเช้าวันถัดไปที่โรงเรียน เมื่อทั้งโรงเรียนมีหนูมากมายแล้ว บรรดาครูซึ่งเกลียดหนูก็จะเอาเนยแข็งมาล่อแล้วติดกับดักหนูฟันหัวหนูขาด โดยไม่รู้ว่านั่นคือนักเรียนแม่มดมีสมาคมลับอยู่ในทุกประเทศ แม่มดทั่วโลกจะไม่รู้จักกันหมด จะรู้จักเฉพาะแม่มดในประเทศเดียวกันเท่านั้น มีข้อห้ามอย่างเข้มงวดไม่ให้แม่มดติดต่อข้ามแดน แต่แม่มดประเทศเดียวกันจะรู้จักกันหมดและเป็นเพื่อนกัน แม่มดในแต่ละประเทศจะจัดประชุมลับปีละครั้ง เพื่อมาฟังการบรรยายของหัวหน้าแม่มด หัวหน้าแม่มดนี้เป็นเจ้านายแม่มดทั่วโลก มีอำนาจมากที่สุดและใจร้ายโหด***มมากที่สุด การประชุมของแม่มดจะจัดขึ้นในโรงแรมหรูอย่างการประชุมธรรมดาๆของกลุ่มสตรีนักสังคมสงเคราะห์หรือองค์กรเพื่อสังคมอื่นๆ แต่ก็มีเหตุการณ์พิลึกๆเกิดขึ้นในโรงแรมที่แม่มดพักอยู่ที่ชวนสงสัย อย่างเช่น ไม่มีใครนอนบนเตียงเลยสักคนเดียวแต่มีรอยไหม้บนพรมปูพื้น มีคางคกแอบอยู่ในอ่างอาบน้ำ และมีครั้งหนึ่งที่พ่อครัวเจอลูกจระเข้ว่ายอยู่ในหม้อซุปบ้านของหัวหน้าแม่มดเป็นความลับ ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน มีคนมากมายที่พยายามค้นหาเพราะต้องการกำจัดหัวหน้าแม่มด แต่ก็ค้นไม่พบสักที หัวหน้าแม่มดนั้นร่ำรวยมาก ลือกันว่าเป็นเพราะมีเครื่องจักรสำหรับพิมพ์ธนบัตรทุกประเทศและทุกประเภทไว้แจกจ่ายให้แม่มดคนอื่นๆ สำหรับเป็นทุนในการเตรียมแผนการชั่วร้ายที่จะกำจัดเด็ก อย่างเช่นการซื้อร้านขนมหวานใหญ่ๆแล้วแจกขนมใส่ยาให้เด็กจำนวนมากที่มารุมกันแน่นร้าน
แม้ว่าแม่มดจะมีลักษณะเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป แต่ก็พอจะมีข้อสังเกตอยู่บ้างว่าเป็นแม่มด ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะสังเกตได้ยาก ต้องใช้วิธีเดาข้อแรกคือ แม่มดจะสวมถุงมือตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือฤดูอะไร เหตุผลคือแม่มดไม่มีเล็บมือนิ้วมืออย่างคนปกติแต่กลับมีกรงเล็บที่งองุ้มเหมือนแมว จึงต้องปกปิดไว้ ข้อนี้สังเกตยากคือในฤดูหนาวผู้ดีอังกฤษจะสวมถุงมือกันทั้งนั้นจึงต้องดูข้ออื่นประกอบ
ข้อที่สอง แม่มดศีรษะล้าน ไม่มีผมงอกเลยสักเส้น จึงจำเป็นต้องใส่วิกอย่างดีปกปิด
ข้อที่สาม รูจมูกแม่มดมีขนาดโตกว่าของคนปกติเล็กน้อย ตรงขอบของรูจมูกจะเป็นรูปโค้งๆคล้ายขอบเปลือกหอยทะเลชนิดหนึ่งและเป็นสีชมพู ที่รูจมูกของแม่มดต้องมีขนาดใหญ่ก็เพราะเอาไว้ดมกลิ่นตัวเด็ก แม้มองไม่เห็นตัวก็สามารถรู้ได้ว่ามีเด็กอยู่ที่ไหนบ้าง
ข้อที่สี่ รูม่านตาของแม่มดไม่ใช่สีดำอย่างคนทั่วไปแต่จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จะเห็นเปลวไฟและน้ำแข็งเต้นระริกอยู่ตรงกลางจุดสีต่างๆนั้น และทำให้คนที่มองเห็นหนาวเยือกไปทั้งสันหลัง
ข้อที่ห้า แม่มดไม่มีนิ้วเท้า มีแต่เท้าที่มีปลายเท้าตัดตรง เวลาใส่รองเท้าแบบผู้หญิงจะลำบากและเจ็บมากแต่ก็ต้องทน บางทีอาจเห็นแม่มดเดินกะโผลกกะเผลกบ้าง ต้องสังเกตให้ดี
ข้อที่หก แม่มดมีน้ำลายเป็นสีน้ำเงิน และใช้แทนหมึกปากกาได้ แม่มดจะจุ่มปากกาอย่างปากกาคอแร้งเข้าปากแล้วเลียเอาๆเวลาจะเขียน
สรุปคือ ต้องใช้ข้อสังเกตหลายข้อรวมกัน ถ้าเห็นผู้หญิงที่มีลักษณะเช่นนี้ครบทุกข้อคือ สวมถุงมือ,รูจมูกบาน,นัยน์ตาพิกล,ทรงผมเหมือนสวมวิกผมปลอม,ฟันมีคราบสีน้ำเงิน แสดงว่าเป็นแม่มดตัวจริง ที่ต้องหนีให้ห่างไกลโดยเร็วที่สุด